- มื้ออาหารต้องประกอบด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ และไขมันดี เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และโปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมันหรือพืช
- หลีกเลี่ยงการอดอาหาร เพราะการอดอาหารทำให้คุณหิวมากขึ้น และมีโอกาสที่จะกินไม่หยุดในภายหลัง
การจัดการปัญหา Binge Eating Disorder (BED) มักเกิดจากการควบคุมน้ำหนักอย่างเคร่งครัดและขาดสารอาหารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดูแลและรักษาจะดีขึ้นเมื่อได้รับสารอาหารเพียงพอ นี่คือคำแนะนำที่ควรทำ:
### 1. **เลิกกังวลกับตัวเลขบนตราชั่ง**
- การยึดติดกับน้ำหนักตัวทำให้เกิดความเครียดและวนเวียนกับการลดน้ำหนัก เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารครบ น้ำหนักอาจเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ ควรมองสุขภาพโดยรวมแทน
### 2. **เลิกนับแคลอรี่**
- การนับแคลอรี่เพิ่มความเครียดและทำให้รู้สึกผิดเมื่อกินมากเกินไป ให้โฟกัสที่ความหลากหลายของอาหารแทน
### 3. **สนใจสารอาหารครบทุกหมู่**
- ให้ความสำคัญกับการกินครบ 5 หมู่ รวมทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ อย่ามองแค่ว่าเป็นคาร์บหรือไขมันเท่านั้น ต้องกินให้ครบทุกส่วน
### 4. **มองภาพรวมในแต่ละวัน**
- อย่ามองแค่มื้อใดมื้อหนึ่ง หากวันนั้นมีการ Binge อาหารแคลอรีสูง อย่าลืมให้ความสำคัญกับมื้อถัดไปในการเติมเต็มสารอาหารที่ขาดไป เช่น โปรตีน ไขมัน และวิตามิน
กินอาหารที่สมดุลและเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายกลับมาทำงานอย่างสมดุลและช่วยลดอาการ Binge ได้
วางแผนมื้ออาหารที่สมดุล
- 2 ส่วนของไฟเบอร์ (ทั้งผักสดและผักสุก)
- 1 ส่วนของโปรตีน (เช่น เนื้อสัตว์ ปลา เต้าหู้ ไข่)
- 1 ส่วนของคาร์โบไฮเดรต** (เช่น ข้าว ขนมปัง มันฝรั่ง)
วิธีการจัดสัดส่วนอาหารแบบ 211
- ผักต่างๆ เช่น
ผักใบเขียว, บร็อคโคลี, แครอท, แตงกวา, มะเขือเทศ
ฯลฯ
-
เลือกผักที่คุณชอบและปรุงได้หลายแบบ เช่น ผัด ต้ม นึ่ง หรือลวก
2. **หนึ่งในสี่ของจานเป็นโปรตีน**
-
เลือกโปรตีนที่มีคุณภาพดี เช่น เนื้อปลา, เนื้อไก่ (ส่วนอก), เต้าหู้,
ไข่, เนื้อหมูไม่ติดมัน หรือโปรตีนจากพืช เช่น
ถั่วเลนทิลหรือถั่วชนิดต่างๆ
- เน้นโปรตีนไร้ไขมัน
หรือหากเป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ให้เลือกเนื้อที่ไขมันต่ำ
3. **หนึ่งในสี่ของจานเป็นคาร์โบไฮเดรต**
-
เลือกคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพสูง เช่น ข้าวกล้อง, ข้าวไรซ์เบอร์รี,
ขนมปังโฮลวีต, มันเทศ, มันฝรั่ง
หรือข้าวโอ๊ต
-
เลี่ยงคาร์โบไฮเดรตขัดสีหรือที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมปังขาว หรือขนมหวาน
ตัวอย่างเมนูอาหารตามสัดส่วน 211
**มื้อเช้า**
- **ผัก:** สลัดผักใบเขียว, มะเขือเทศ, แตงกวา
และน้ำสลัดน้ำใส (ควรหลีกเลี่ยงน้ำสลัดที่มีน้ำมันเยอะ)
- **โปรตีน:** ไข่ต้ม 2 ฟอง หรือไข่ลวก 2 ฟอง
- **คาร์โบไฮเดรต:** ขนมปังโฮลวีต 1-2 แผ่น หรือข้าวกล้อง
**มื้อกลางวัน**
- **ผัก:** ผัดผักรวม เช่น บร็อคโคลี, แครอท, เห็ด
หรือสลัดผักสด
- **โปรตีน:** อกไก่ย่าง, เต้าหู้ผัดซอสเต้าเจี้ยว หรือเนื้อปลาอบ
- **คาร์โบไฮเดรต:** ข้าวไรซ์เบอร์รี หรือข้าวกล้อง 1 ทัพพี
**มื้อเย็น**
- **ผัก:** ซุปผักรวม เช่น ผักกาดขาว, แครอท, ฟักทอง
หรือผักโขม
- **โปรตีน:** ปลาแซลมอนย่าง หรือเนื้อหมูไม่ติดมันย่าง
- **คาร์โบไฮเดรต:** มันหวาน 1 ลูกขนาดกลาง หรือข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการกินแบบ 211
1. **ความหลากหลายของผัก:** ลองเปลี่ยนผักในแต่ละวันเพื่อไม่ให้เบื่อ
เช่น วันหนึ่งกินผักใบเขียว อีกวันอาจจะเลือกผักตระกูลกะหล่ำ
2. **โปรตีนคุณภาพ:** ควรสลับโปรตีนจากพืชและสัตว์ เช่น
วันหนึ่งเน้นเนื้อสัตว์ อีกวันหนึ่งอาจจะเลือกโปรตีนจากเต้าหู้ ถั่ว หรือไข่
เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารหลากหลาย
3. **คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน:** ให้เน้นคาร์โบไฮเดรตที่มีเส้นใยสูง
เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ เพราะคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจะช่วยให้ร่างกายย่อยช้าลง
ทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่า
การกินตามสัดส่วน 211 จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ลดการบริโภคอาหารที่ไม่จำเป็น และสร้างสมดุลให้กับพลังงานที่ร่างกายต้องการอย่างเหมาะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น